ชื่อสถานที่ หอเอนเมืองปิซา Leaning

ชื่อสถานที่ หอเอนเมืองปิซา Leaning Tower of Pisa
สถานที่ตั้ง เมืองปิซา ประเทศอิตาลี
ปัจจุบัน สามารถเข้าเยี่ยมชมได้

หอเอนแห่งเมืองปิซา ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตรเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี ซึ่งเหตุที่ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา และหอเอนนี้ ช่วยให้กาลิเลโอ นักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงของโลก ได้ทดลองเรื่องอัตราเร็วของเทห์วัตถุที่ตกลงมาจากที่สูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหล่ chuesathanthi hoenmueangpisa ทาวเวอร์ของ PisaMueangpisa prathetitali sathanthitangSamarotkhaoyiamchomdai patchuban จัน fut 183.3 (55.86 พบ) สูง Tangayuthimueangpisa ในจัตุรัสเปียซซาเดน hoenhaengmueangpisa บุหรี่ Piazza Del บุหรี่ 8 penhotrongkrabok horakhangkhongsatnakritnikairomankhatholik sarangduaihinonsikhao tandoipraman mibandai คาน namnakruam iang 14,500 3.97 293 yotkhonghohangchaknaeotangchak metroemsarangmueawanthi 9 singhakhom ongsa ค. 3.9 ศ sarangsaretmueapi .1173 chaiwelatrangpraman suenghetuthithamhaikankotrangyutchangakmueatrangpaidaithuengchan ปี่ 3 175 1350 nueangchakphuentaidinpenphuendinthinim tomanaipi thamhaiyuptua ศ.1272 ดอยจิโอวานนีค Saranghaienklappaiikdannuengphueahaisomdun taekankotrangnaikhrangni ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงครามต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ di Simone หน้า 7 naipi คจัน.1319 taehorakhangthukotrangsaretnaipi ศค... doichaiwelatrangthangmot 177 langchaknan ศปี่.1372 ค naipi. ศ. 1990-2001 phueapongkanmaihaiholomlongma chuaihaikalileo chaoitalian hoenpisadairapkanprapprungthanhaikhaengraengyingkhuen laehoenni nakwityasat daithotlongrueangatrareokhongthewatthuthitklongmachakthisung phumichuesiangkhonglok

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชื่อสถานที่หอเอนเมืองซาหอเอนเมืองปิซาปิ
สถานที่ตั้งเมืองซาประเทศอิตาลีปิ
ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่เมืองปิซาในจัตุรัสเปียซซาเดลดูโอโม (Piazza Del Duomo) เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้นสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวสูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณมีบันได 293 ขั้นเอียง 3.97 องศายอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตรเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมค ศ. 1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี 3 ทำให้ยุบตัวต่อมาในปี ค.ศ. 1272 โดย Giovanni di Simone แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ 7 ชั้นในปี ค.ศ. 1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปีหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1990-2001 เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมาและหอเอนนี้ช่วยให้กาลิเลโอนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียนผู้มีชื่อเสียงของโลก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชื่อสถานที่หอเอนเมืองปิซาหอเอนเมืองปิซ่า 2
4 2
4 ประเทศอิตาลีเมืองปิซาสถานที่ตั้งปัจจุบันสามารถเข้าเยี่ยมชมได้

หอเอนแห่งเมืองปิซาตั้งอยู่ที่เมืองปิซาในจัตุรัสเปียซซาเดลดูโอโม ( Piazza del Duomo ) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้นสูง 183.3 ฟุตสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ( เมตร ) น้ำหนักรวม 55.86 14 ,500 หมายเลข 293 ขั้นตันโดยประมาณมีบันไดเอียง 3.97 องศายอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 9 สิงหาคมคเมตรเริ่มสร้างเมื่อวันที่ . ศ .1,173 1,350 175 ปีสร้างเสร็จเมื่อปีใช้เวลาสร้างประมาณซึ่งเหตุที่ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้นเนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่มทำให้ยุบตัวต่อมาในปี 3 ค . ศ .1272 โดยพรีเมียร์ลีก ( ADL ) di simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุลแต่การก่อสร้างในครั้งนี้ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงครามต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้นค . ศ . ในปีค . ศแต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี TR#1319 เมื่อได้ถึง 177 ปี 1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดหลังจากนั้นในปีค . ศ .ปี 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมาและหอเอนนี้ช่วยให้กาลิเลโอชาวอิตาเลียนผู้มีชื่อเสียงของโลกนักวิทยาศาสตร์